เดี๋ยวนี้แวดวงกีฬายังคงระส่ำระสายกับการแพร่ระบาดของวัววิด-19 ทำให้การจัดการแข่งกีฬายังไม่อาจจะจัดการอย่างเต็มรูปแบบ
แม้กระนั้นการแข่งขันชิงชัยกีฬาทุกจำพวกจำเป็นมากอย่างยิ่งที่จะต้องมีการฝึกหัดรวมทั้งมีเกมชิงชัยโดยตลอดถ้าหากเหตุการณ์บรรเทาสัมพันธ์กีฬาตะกร้อที่เมืองไทยก็ตระเตรียมจัดให้มีการชิงชัยกีฬาตะกร้อ รายปี 2564 ขึ้น ใน 3 จำพวกทั้งยังตะกร้อหญิงชิงแชมป์ที่เมืองไทย–ตะกร้อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และก็ตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน มวก.ทั้งปวงมีอยู่ในตารางการจัดการชิงชัยของสัมพันธ์ตะกร้อมานานแล้ว รอคอยเพียงฟ้าใส ถนนหนทางเตียนโล่งก็สามารถปฏิบัติการได้ในทันทีเขียนถึงเรื่องราวของตะกร้อเมื่อใด อดไม่ได้ที่จะระลึกถึงชายหนุ่มทองใจกล้า “ปลัดโหนก” วิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้ครอบครองฟาร์มโค “ศรีประเทศไทยฟาร์ม” จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าตำรับของการเลี้ยงแล้วก็ผลักดันการเลี้ยงโคประเภท “ฮินดูบราซิล” อันมีชื่อเสียงสุดๆเว้นแต่ “ปลัดโหนก” จะชอบพอวิถีชีวิตการเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคแล้ว ยังมีใจรักผูกพันรวมทั้งคลั่งไคล้กับกีฬาตะกร้ออย่างมากอีกด้วย เคยได้รับเชื้อเชิญให้เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลตะกร้อเด็กนักเรียนไทยถึง 6 ยุคต่อเนื่องกัน
ซึ่งใน 6 ยุคสามารถปัดกวาดแชมป์ในระดับประเทศมาได้อย่างมากใหญ่ทุกคราวด้วย จนถึงเป็นที่กลัวเกรงในวงการตะกร้อเด็กนักเรียน แล้วก็หลายๆคนในเมืองเหน่อต่างให้ฉายา “เจ้าพ่อลูกหวาย” ไปแล้วซึ่งชาติที่จำต้องโคจรมาเจอะเจอชอบทราบถึงผลจากการแข่งขันล่วงหน้าได้เลยเคยมีปริศนาว่า เพราะเหตุใด “ปลัดโหนก” ไม่ก้าวมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติชุดใหญ่คำตอบที่ได้เป็น “ผมต้องการสร้างเด็กๆเนื่องจากถัดไปจะได้มีตัวแทนรุ่นพี่ที่จำเป็นต้องโรยราไปตามยุคสมัย”ปัจจุบัน!!! แม้ว่าจะยังไม่มีการรับรองการจัดแข่งระดับประเทศอย่างเป็นทางการ แต่ว่าเท่าที่รู้มาจาก “พี่ไว เด่นชัย” ผู้สื่อข่าวไทยเมือง รุ่นใหญ่ ที่คลุกคลีอยู่กับทุกเรื่องราวใน จังหวัดสุพรรณบอกมาว่า ในช่วงเวลานี้กลุ่ม อบจ.จังหวัดสุพรรณบุรี @ราชกองทัพเรือ ที่ “ปลัดโหนก” ดูแลอยู่ มีความพร้อมเพรียง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะส่งกลุ่มร่วมการประลอง