มาแล้ว ตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน
“ตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 43” ศึกตะกร้อหนึ่งในรายการระดับเมเจอร์ของ “แวดวงตะกร้อประเทศไทย” ที่จะมีเหล่าบรรดาแม่ทัพนักตะกร้อจากสมาคมชั้นหนึ่งจากทั่วฟ้าเมืองไทย มาร่วมแข่งเชิงชั้นฟาดลูกตะกร้อ ท้าชิง “ถ้วยรางวัลพระราชทาน” อันมีเกียรติกันในระหว่างวันที่ 7-13 มิ.ย.นี้ในห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ฯ
ศึกตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน ม.ว.ก. ในปีนี้จะมีการต่อสู้ใน 4 ชนิด มี ทีมชุดชาย จำนวน 9 ทีม ), ทีมเดี่ยวชายอายุไม่เกิน 20 ปี จำนวน 65 ทีม , ตะกร้อลอดห่วงไทยชายทั่วๆไป (ไม่จำกัดความสามารถ) จำนวน 10 ทีม แล้วก็ ทีมชุดหญิงทั่วไป จำนวน 16 ทีม
แน่นอนไฮไลต์ของศึกตะกร้อที่ยิ่งใหญ่รายการนี้ อยู่ที่ในจำพวก “กลุ่มชุดชาย” ที่มี “ถ้วยพระราชทาน” เป็น “รางวัลอันมีเกียรติ” แล้วก็มี 9 สมาคมระดับแถวหน้าของประเทศไทย เป็นต้นว่า ชมรมอากาศโยธิน,ทัพบก, ทัพเรือ , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กทท., สโมสรการกีฬาจังหวัดชลบุรี, ทหารราบ, ตำรวจตระเวรชายแดน.
ในปีนี้นับว่าเป็นปีที่ไม่มีเหล่าบรรดา “นักตะกร้อทีมชาติไทย” ลงแข่งขัน แต่การชิงชัยก็มิได้ด้อยลงไปเลยกว่าปีที่ล่วงเลยไปแน่ๆ เหตุเพราะชมรมชั้นหนึ่งไม่มีเหล่า “สตาร์ทีมชาติไทย” ซึ่งเปรียบได้กับ “การ์ดพิเศษ” มาลงแข่งขันในศึกคราวนี้ ทำให้การขับต้มแย่งชิงตำแหน่ง “แชมป์” จะสนุกสนานใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อยๆยิ่ง เนื่องจากว่าไม่มีผู้ใดเป็นต่อเสียเปรียบกันเท่าไรนัก
ระหว่างที่จำพวก “กลุ่มชุดหญิง” ในศึกรายการนี้ จำเป็นต้องพูดว่าเป็นอีกปีที่น่าดูน่าชมไม่แพ้กัน เนื่องมาจากในปีนี้บรรดายอดกลุ่มฝั่งหญิง เป็นต้นว่า ฮอนด้า ยูเนี่ยน, จังหวัดราชบุรี, กีฬากรุงเทวดา, กีฬาสุพรรณฯ หรือ จังหวัดชลบุรี
แม้กระนั้นให้แม้เอ๋ยถึง “กลุ่มเต็งแชมป์” ในปีนี้น่าจะเป็นการขับต้มกันของ 3 เต็ง อย่าง ฮอนด้า ยูเนี่ยน ที่มี “สาวน้อยน่าพิศวง” ปริมประภา แก้วคำไสย์ นำกองทัพ , “มังกรไฟ” จังหวัดราชบุรี ที่ขนดาวรุ่งพุ่งแรง พร้อมจับตัวได้ “กัปตันนิด” สุภาวดี วงคำจันทร์ ที่มากล่าวโทษท้าใหม่ๆรวมทั้งที่ประมาทมิได้เป็น จังหวัดชลบุรี ที่ขนดาวรุ่งจากสถานที่เรียนเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรีมาพร้อมปะทะรุ่นพี่
ส่วนในอีกหนึ่งอีเว้นต์ อย่าง “กลุ่มผู้เดียวชาย รุ่นอายุไม่เกิน 20” นับว่าเป็นรายการที่น่าติดตามไม่แพ้กัน เพราะในปีนี้สมาพันธ์ต่างๆส่งกลุ่ม “นักตะกร้อดาวรุ่ง” ลงแข่งขันเชิงตะกร้อสูงถึง 65 กลุ่มอย่างยิ่งจริงๆ
ซึ่งจะก่อให้แฟนคลับตะกร้อ จะได้มีความเห็นว่า “นักตะกร้อดาวรุ่ง” ผู้ใดที่จะได้โอกาสก้าวขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่เสริมแต่งแวดวงตะกร้อไทยในอนาคตด้วยนั่นเอง
งานนี้บอกเลยว่า…ถ้าหากคุณเป็น แฟนตะกร้อตัวจริง 7-13 มิ.ย. 2565 คุณห้ามพลาดเด็ดขาด !!!!
